หนูน้อยจมูกแดง ฉายานี้ ฉันไม่อยากได้ - ภูมิแพ้มาแชร์กัน #1
#ภูมิแพ้มาแชร์กัน เรื่อง :
"หนูน้อยจมูกแดง" ฉายานี้ ฉันไม่อยากกกได้
เขียนโดย : คุณเพ็ญนภา
สวัสดีค่ะ ดิฉันมาแชร์ประสบการณ์ ภูมิแพ้ ของตนเองดิฉันทราบว่าตนเองเป็นภูมิแพ้ตั้งแต่จำความได้จนปัจจุบันนี้อายุ 27ปี ก็ยังมีอาการภูมิเเพ้อยู่สาเหตุที่เป็นคุณหมอบอกว่าน่าจะมาจาก.....
.
.
".....กรรมพันธุ์..... "
.
.
เพราะคุณพ่อก็เป็นภูมิแพ้เหมือนกันดิฉันมีพี่น้อง 4 คน (รวมตัวเองด้วย)ทุกคนเป็นผู้หญิงหมด ซึ่งดิฉันเป็นลูกคนที่ 3และได้รับกรรมพันธุ์ โรคภูมิแพ้ จากคุณพ่อมาเพียงคนเดียว แบบเต็มๆพี่น้องที่เหลือทุกคนแข็งเเรงดี ไม่มีใครมีแววว่า จะมีอาการเลย
.
.
บ้านเกิดของดิฉันอยู่ที่จังหวัด สมุทรสาครค่ะยังจำได้เลยว่า สมัยตอนเด็กๆนั้น เวลาไปโรงเรียนจะทรมานมาก เวลาที่อาการภูมิแพ้กำเริบ จะมีน้ำมูกใสๆ ไหลมาตลอด แล้วก็จะมีอาการจาม คันจมูก และคันตาจนบางครั้งคิดว่า เพื่อนที่นั่งข้างๆ ก็คงแอบรำคาญเราเหมือนกัน T_T
.
.
ผ้าเช็ดหน้าที่พกไปโรงเรียนด้วย มีไว้ซับน้ำมูก เปียกทั้งผืนเลยค่ะ บางครั้งใช้กระดาษทิชชู่เช็ด ก็ยิ่งทำให้จามมากกว่าเดิม เพราะในกระดาษทิชชู่ไม่สะอาด มีฝุ่นอยู่ ยิ่งเรานำมาเช็ด ยิ่งทำให้อาการหนักมากขึ้น ถ้าวันไหนมีอาการนี่คือจมูกแดงไปหมดเลย แดงจน เพื่อนๆตั้งฉายาให้ว่า "หนูน้อยจมูกแดง" มันไม่สนุกเลย มันทรมานจริงๆ เวลาเป็นมากๆ เรียนหนังสือก็ไม่มีสมาธิ แถมทำให้คนรอบข้างเราไม่มีสมาธิไปด้วย
.
.
คือเราไม่สามารถทราบได้เลย ว่าวันไหนที่เราจะมีอาการกำเริบ บางวันตื่นนอนมาก็มีอาการเลย เฉลี่ยแล้วเราเป็น 3 วัน/อาทิตย์ เมื่อจบมัธยมปลายดิฉันได้ไปทำการศึกษาต่อ ที่ประเทศออสเตรเลีย เมืองซิดนีย์ ต้องยอมรับเลยว่า อากาศดีกว่าเมืองไทยมากดิฉันอาศัยอยู่ที่ซิดนีย์เป็นเวลา 4 ปีคือ อาการภูมิแพ้ลดน้อยลงมากๆโดยเฉลี่ยแล้วเป็นแค่เดือนละครั้งพกยาจากเมืองไทยไปเยอะ แต่แทบไม่ต้องใช้เลยค่ะ
.
.
หลังจากจบการศึกษา ก็ได้กลับมาอยู่ที่บ้านสมุทรสาคร ซักพักอาการภูมิแพ้ก็กลับมากำเริบหนักอีก ดิฉันเริ่มหางานทำ โดยเลือกที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะคิดว่าอากาศน่าจะดีกว่าที่อื่นๆ และเป็นเมืองที่น่าอยู่ด้วยหลังจากนั้นไม่นาน ดิฉันก็ได้ย้ายมาทำงาน ที่เชียงใหม่ตามที่ได้ตั้งใจไว้ค่ะ..........
.
.
หลังจากมาอยู่ที่เชียงใหม่ ได้ไม่นาน อาการภูมิแพ้ก็ถามหาเหมือนเดิม แต่นานๆจะเป็นครั้งเป็นทีนึงก็หนักเอาการ ถึงกับต้องลางาน กินยา และนอนพักผ่อน คือโรคนี้เวลา มีอาการขึ้นมาที มันทั้งกระทบต่อการเรียน และ การงาน มากๆเลยค่ะ
.
.
เคยไปทำ allergy testing ที่โรงพยาบาล สิ่งที่พบว่ามีอาการแพ้อย่างรุนแรง คือ ไรฝุ่น อันดับ1 และแมลงสาบ รองลงมา คุณหมอแจ้งให้ทราบว่าแพ้ค่อนข้างรุนแรง วิธีการรักษา ณ ตอนนั้น คือ......ให้ยาแก้แพ้มาทานทุกวัน และยาพ่นจมูก
.
.
แต่คุณหมอก็ได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า จริงๆแล้วการรักษาแบบนี้ เหมือนเป็นการรักษาที่ปลายเหตุมากกว่า คุณหมอได้แนะนำให้ออกกำลังกายเยอะๆ ทำความสะอาด ผ้าปูที่นอน เครื่องนอน และปลอกหมอนบ่อยๆ ซึ่งดิฉันก็ได้ทานยา และปฏิบัติตามที่คุณหมอแนะนำ แต่ก็ยังคงมีอาการอยู่เป็นๆหายๆค่ะ
ความจริงอย่างหนึ่ง ที่เราต้องทำใจยอมรับมัน คือ "โรคภูมิแพ้ ถึงแม้เราจะทานยารักษายังไง มันก็ไม่มีทางหายขาดได้ค่ะ"
นี่คือ 1 ในเรื่องเล่า ของหญิงสาววัยรุ่นที่ต้องเผชิญ กับของขวัญทางพันธุกรรม ที่เธอไม่ต้องการ ตั้งแต่วัยเด็ก ...โรคภูมิแพ้...
==============
ร่วมเป็นครอบครัวเดียวกับเรา Siri Allergy Guard ได้ตามช่องทางด้านล่างนี้เลยค่ะ
Web : http://www.siriallergyguard.com
Blog : http://www.siriallergyguard.blogspot.com
Fan Page : https://www.facebook.com/siriallergyguard
Instagram : https://www.instagram.com/siriallergyguard
Twitter : https://twitter.com/Siri_Allergy
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCVe829Bdd5oCZRHUMzlubbQ
0 ความคิดเห็น: